อยากเล่าให้ฟัง... ✨ กลยุทธ์ใหม่ของ Finnomena ซึ่งเป็น Private Call ลับเฉพาะนักลงทุนของเราเท่านั้น!🎯 ด้วยโมเดล Robotic Investment (ROBIN) กำหนดจุดซื้อ-จุดขายเป็นระบบ ✅ ผ่านการทำ Live Test ที่ Win Rate สูงถึง 88%
จะว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่นักลงทุนก็ได้ กับการเปิดตัว Private Call กลยุทธ์การลงทุนใหม่ด้วยระบ Robotic Investment (ROBIN) สำหรับผู้ลงทุน Private Wealth & Ultra ของ Finnomena
✨ ความน่าสนใจของระบบ ROBIN คือ เป็นระบบแจ้งสัญญาณการลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกำหนดจุดซื้อและจุดขาย เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนอย่างเป็นระบบ (Systematic) ช่วยลดอคติที่เกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์
🔥 สินทรัพย์เป้าหมายของการทำระบบแจ้งเตือนสัญญาณ จะอยู่ในรูปแบบของดัชนีหรือกองทุน ETF ที่มีกองทุนรวมในไทยนำเงินไปลงทุนหรือมีความเคลื่อนไหว (Correlation) ใกล้เคียงกัน เช่น ดัชนี S&P 500, NASDAQ 100, Russell 2000, และ SPDR Select Sector Fund – Financial (XLF) เป็นต้น
ทุกกลยุทธ์ได้ผ่านการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) 10 ปี และมีการทำ Forward Test (Live) ผ่านการทดสอบนัยสำคัญทางสถิติ
ผลตอบแทนคิดแบบหลักหักค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (net of fee) ในการทำ Backtesting
✅ เหมาะกับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนระยะสั้นถึงกลาง (1-3 เดือน)
ROBIN ใช้ตัวชี้วัดหลัก 2 ตัว
1️⃣ Win Rate ยิ่งสูงเท่าไหร่ หมายความว่ายิ่งมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น
2️⃣ Profit Factor หากมากกว่า 1 แสดงว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุน ยิ่งค่านี้สูงก็ยิ่งดี
ตัวอย่างกลยุทธ์ของ ROBIN และสถิติ Win Rate - Profit Factor จากการทำ Backtest 10 ปี
✨ กลยุทธ์ Market Breadth กับดัชนี S&P 500
ใช้หลักการจับจังหวะเข้าซื้อในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว ถึงแม้ว่าในระยะสั้นภาพรวมหุ้นในตะกร้าดัชนีแสดงแนวโน้มขาลง
- Win Rate 76%
- Profit Factor 2.6
✨ กลยุทธ์ CABB กับ iShares Global Clean Energy UCITS ETF (INRG)
การเข้าซื้อ/ขายออกด้วย Bollinger Band สามารถทำได้ทั้งในลักษณะ Contrarian (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่าง ขายเมื่อราคาแตะขอบบน) หรือ Trend Following (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบบน ขายเมื่อราคาแตะขอบล่าง)
- Win Rate 65%
- Profit Factor 3.2
✨ กลยุทธ์ WVF Reversion กับ Invesco Leisure and Entertainment ETF (PEJ)
มองหาจุดกลับตัวของราคา โดยสังเกตเมื่อ WVF มีค่าเพิ่มสูงขึ้น เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าราคาสินทรัพย์นั้น ๆ ลดลงจนถึงระดับต่ำและอาจจะกลับขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสในการซื้อในราคาต่ำ
- Win Rate 77%
- Profit Factor 3.5
🔥 สถิติจากการ Forward Test
โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2024 เกิดสัญญาณซื้่อทั้งหมด 9 ครั้ง สามารถสร้างผลกำไรได้ 8 ครั้ง คิดเป็นอัตรา Win Rate ที่ 88.89% Profit Factor 17.53
*กำไรสุทธิจาก Forward Test คำนวณโดยใช้สมมติฐานค่าธรรมเนียมขาเข้าที่ 1.5% โดยบวกรวมเข้าไปในราคาซื้อ (Price In) ของดัชนีหรือกองทุนนั้น ๆ
*ตารางผล Forward Test แสดงเฉพาะเทรดที่ขายออกและรับรู้ผลกำไร/ขาดทุนแล้วเท่านั้น
✅ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2024 ได้เกิดสัญญาณแรกแล้ว เป็น “จังหวะเข้าซื้อ” SPDR Finance
สามารถติดตามคำแนะนำแบบเต็ม ๆ ได้ที่ Opportunity Hub ของ Finnomena
👉