Tweets in Worldwide
B-USALPHA ปันผลอีก 0.30 บาทต่อหน่วยฯ ปีนี้ปันผลแล้ว 4 ครั้ง รวม 0.75 บาทต่อหน่วยฯ ลงทุนกองทุน B-USALPHA ได้ง่าย ๆ ผ่านโมบายแบงก์กิ้งธนาคารกรุงเทพ หรือ BF Fund Trading จาก BBLAM ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 500 บาท • สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมผ่าน Facebook messenger - BBLAM • โทร. 0 2674 6488 กด 8 • เลือกดูข้อมูลกองทุนได้ที่ เว็บไซต์ของ BBLAM คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง และสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุในคู่มือการลงทุนในกองทุน RMF/SSF ก่อนการตัดสินใจลงทุน / กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ #BBLAM# #กองทุนบัวหลวง# #BFFundTrading# #MobileBanking# #ธนาคารกรุงเทพ# #RMF# #SSF# #หุ้น# #สหรัฐอเมริกา# #usa# #BUSALPHA# #busalpharmf# #busalphassf#
Show more
1
อยากเล่าให้ฟัง... ✨ กลยุทธ์ใหม่ของ Finnomena ซึ่งเป็น Private Call ลับเฉพาะนักลงทุนของเราเท่านั้น!🎯 ด้วยโมเดล Robotic Investment (ROBIN) กำหนดจุดซื้อ-จุดขายเป็นระบบ ✅ ผ่านการทำ Live Test ที่ Win Rate สูงถึง 88% จะว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่นักลงทุนก็ได้ กับการเปิดตัว Private Call กลยุทธ์การลงทุนใหม่ด้วยระบ Robotic Investment (ROBIN) สำหรับผู้ลงทุน Private Wealth & Ultra ของ Finnomena ✨ ความน่าสนใจของระบบ ROBIN คือ เป็นระบบแจ้งสัญญาณการลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกำหนดจุดซื้อและจุดขาย เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนอย่างเป็นระบบ (Systematic) ช่วยลดอคติที่เกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์ 🔥 สินทรัพย์เป้าหมายของการทำระบบแจ้งเตือนสัญญาณ จะอยู่ในรูปแบบของดัชนีหรือกองทุน ETF ที่มีกองทุนรวมในไทยนำเงินไปลงทุนหรือมีความเคลื่อนไหว (Correlation) ใกล้เคียงกัน เช่น ดัชนี S&P 500, NASDAQ 100, Russell 2000, และ SPDR Select Sector Fund – Financial (XLF) เป็นต้น ทุกกลยุทธ์ได้ผ่านการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) 10 ปี และมีการทำ Forward Test (Live) ผ่านการทดสอบนัยสำคัญทางสถิติ ผลตอบแทนคิดแบบหลักหักค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (net of fee) ในการทำ Backtesting ✅ เหมาะกับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนระยะสั้นถึงกลาง (1-3 เดือน) ROBIN ใช้ตัวชี้วัดหลัก 2 ตัว 1️⃣ Win Rate ยิ่งสูงเท่าไหร่ หมายความว่ายิ่งมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น 2️⃣ Profit Factor หากมากกว่า 1 แสดงว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุน ยิ่งค่านี้สูงก็ยิ่งดี ตัวอย่างกลยุทธ์ของ ROBIN และสถิติ Win Rate - Profit Factor จากการทำ Backtest 10 ปี ✨ กลยุทธ์ Market Breadth กับดัชนี S&P 500 ใช้หลักการจับจังหวะเข้าซื้อในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว ถึงแม้ว่าในระยะสั้นภาพรวมหุ้นในตะกร้าดัชนีแสดงแนวโน้มขาลง - Win Rate 76% - Profit Factor 2.6 ✨ กลยุทธ์ CABB กับ iShares Global Clean Energy UCITS ETF (INRG) การเข้าซื้อ/ขายออกด้วย Bollinger Band สามารถทำได้ทั้งในลักษณะ Contrarian (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่าง ขายเมื่อราคาแตะขอบบน) หรือ Trend Following (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบบน ขายเมื่อราคาแตะขอบล่าง) - Win Rate 65% - Profit Factor 3.2 ✨ กลยุทธ์ WVF Reversion กับ Invesco Leisure and Entertainment ETF (PEJ) มองหาจุดกลับตัวของราคา โดยสังเกตเมื่อ WVF มีค่าเพิ่มสูงขึ้น เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าราคาสินทรัพย์นั้น ๆ ลดลงจนถึงระดับต่ำและอาจจะกลับขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสในการซื้อในราคาต่ำ - Win Rate 77% - Profit Factor 3.5 🔥 สถิติจากการ Forward Test โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2024 เกิดสัญญาณซื้่อทั้งหมด 9 ครั้ง สามารถสร้างผลกำไรได้ 8 ครั้ง คิดเป็นอัตรา Win Rate ที่ 88.89% Profit Factor 17.53 *กำไรสุทธิจาก Forward Test คำนวณโดยใช้สมมติฐานค่าธรรมเนียมขาเข้าที่ 1.5% โดยบวกรวมเข้าไปในราคาซื้อ (Price In) ของดัชนีหรือกองทุนนั้น ๆ *ตารางผล Forward Test แสดงเฉพาะเทรดที่ขายออกและรับรู้ผลกำไร/ขาดทุนแล้วเท่านั้น ✅ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2024 ได้เกิดสัญญาณแรกแล้ว เป็น “จังหวะเข้าซื้อ” SPDR Finance สามารถติดตามคำแนะนำแบบเต็ม ๆ ได้ที่ Opportunity Hub ของ Finnomena 👉
Show more
0