Tweets in Worldwide
ตัวท๊อปผิวแข็งแรง กระจ่างใส ลดหมองแดง สูตรครอบจักรวาล ส่วนผสมคือโหด ยัดสารสิทธิบัตร งานวิจัยมาแน่น ขวดเดียวบำรุงพื้นฐานผิวโคตรครบ - เสริมชั้นผิว - ปลอบผิว ลดแดง ลดคัน - หน้าทนยาสิว สกินแคร์แรงๆ เช่น Retinol ดี - กระจ่างใส - ต้านอนุมูลอิสระ - ผิวเก็บน้ำอยู่ ชุ่มชื้น หน้านุ่ม บอกเลยว่าดีจริง สายส่วนผสม อ่านงานวิจัยอวยมาตั้งแต่อฟซ. ยังไม่เข้าไทย สมัยพรีออเดอร์ แล้วนอกจากเซรั่มแอมพลู มันจะมีมอยซ์อีก 3 สูตรที่ทำได้คล้ายๆ กัน ใครอยากเลือกเร็วๆ ดูในภาพสรุปแล้วเลือกตามเนื้อที่เข้ากับผิวตัวเอง + สารบำรุงย่อยๆ (ทุกสูตรบำรุงคล้ายกัน แต่ในแต่ละสูตรจะมีบางเรื่องเด่นขึ้นมา) - ทุกสภาพผิว / กระจ่างใส + ริ้วรอย : Ampoule - ผิวมัน-ผสม เป็นสิวง่าย / ปลอบผิว + กระจ่างใส : Gel - ผิวแห้ง / ริ้วรอย + ปลอบผิว : Ointment - ทุกสภาพผิว / ชุ่มชื้นยาวนาน : Cream 🧵ส่วนใครอยากเจาะรีวิวลึกรายตัว อ่านในเธรดต่อได้ จะมีสอนหลักการเลือกสกินแคร์เสริมชั้นผิวด้วยว่ามันไม่ได้มีแค่ทา Ceramide
Show more
10
อยากเล่าให้ฟัง... ✨ กลยุทธ์ใหม่ของ Finnomena ซึ่งเป็น Private Call ลับเฉพาะนักลงทุนของเราเท่านั้น!🎯 ด้วยโมเดล Robotic Investment (ROBIN) กำหนดจุดซื้อ-จุดขายเป็นระบบ ✅ ผ่านการทำ Live Test ที่ Win Rate สูงถึง 88% จะว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้แก่นักลงทุนก็ได้ กับการเปิดตัว Private Call กลยุทธ์การลงทุนใหม่ด้วยระบ Robotic Investment (ROBIN) สำหรับผู้ลงทุน Private Wealth & Ultra ของ Finnomena ✨ ความน่าสนใจของระบบ ROBIN คือ เป็นระบบแจ้งสัญญาณการลงทุนโดยใช้การวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิคกำหนดจุดซื้อและจุดขาย เพื่อสร้างกลยุทธ์การลงทุนอย่างเป็นระบบ (Systematic) ช่วยลดอคติที่เกิดจากการตัดสินใจของมนุษย์ 🔥 สินทรัพย์เป้าหมายของการทำระบบแจ้งเตือนสัญญาณ จะอยู่ในรูปแบบของดัชนีหรือกองทุน ETF ที่มีกองทุนรวมในไทยนำเงินไปลงทุนหรือมีความเคลื่อนไหว (Correlation) ใกล้เคียงกัน เช่น ดัชนี S&P 500, NASDAQ 100, Russell 2000, และ SPDR Select Sector Fund – Financial (XLF) เป็นต้น ทุกกลยุทธ์ได้ผ่านการทดสอบย้อนหลัง (Backtesting) 10 ปี และมีการทำ Forward Test (Live) ผ่านการทดสอบนัยสำคัญทางสถิติ ผลตอบแทนคิดแบบหลักหักค่าธรรมเนียมในการซื้อขาย (net of fee) ในการทำ Backtesting ✅ เหมาะกับนักลงทุนที่มุ่งหวังผลตอบแทนระยะสั้นถึงกลาง (1-3 เดือน) ROBIN ใช้ตัวชี้วัดหลัก 2 ตัว 1️⃣ Win Rate ยิ่งสูงเท่าไหร่ หมายความว่ายิ่งมีโอกาสได้กำไรมากขึ้น 2️⃣ Profit Factor หากมากกว่า 1 แสดงว่าได้กำไรมากกว่าขาดทุน ยิ่งค่านี้สูงก็ยิ่งดี ตัวอย่างกลยุทธ์ของ ROBIN และสถิติ Win Rate - Profit Factor จากการทำ Backtest 10 ปี ✨ กลยุทธ์ Market Breadth กับดัชนี S&P 500 ใช้หลักการจับจังหวะเข้าซื้อในตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นระยะยาว ถึงแม้ว่าในระยะสั้นภาพรวมหุ้นในตะกร้าดัชนีแสดงแนวโน้มขาลง - Win Rate 76% - Profit Factor 2.6 ✨ กลยุทธ์ CABB กับ iShares Global Clean Energy UCITS ETF (INRG) การเข้าซื้อ/ขายออกด้วย Bollinger Band สามารถทำได้ทั้งในลักษณะ Contrarian (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบล่าง ขายเมื่อราคาแตะขอบบน) หรือ Trend Following (ซื้อเมื่อราคาแตะขอบบน ขายเมื่อราคาแตะขอบล่าง) - Win Rate 65% - Profit Factor 3.2 ✨ กลยุทธ์ WVF Reversion กับ Invesco Leisure and Entertainment ETF (PEJ) มองหาจุดกลับตัวของราคา โดยสังเกตเมื่อ WVF มีค่าเพิ่มสูงขึ้น เพราะอาจเป็นสัญญาณว่าราคาสินทรัพย์นั้น ๆ ลดลงจนถึงระดับต่ำและอาจจะกลับขึ้นไปอีกครั้ง ซึ่งเป็นโอกาสในการซื้อในราคาต่ำ - Win Rate 77% - Profit Factor 3.5 🔥 สถิติจากการ Forward Test โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2024 เกิดสัญญาณซื้่อทั้งหมด 9 ครั้ง สามารถสร้างผลกำไรได้ 8 ครั้ง คิดเป็นอัตรา Win Rate ที่ 88.89% Profit Factor 17.53 *กำไรสุทธิจาก Forward Test คำนวณโดยใช้สมมติฐานค่าธรรมเนียมขาเข้าที่ 1.5% โดยบวกรวมเข้าไปในราคาซื้อ (Price In) ของดัชนีหรือกองทุนนั้น ๆ *ตารางผล Forward Test แสดงเฉพาะเทรดที่ขายออกและรับรู้ผลกำไร/ขาดทุนแล้วเท่านั้น ✅ ล่าสุดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2024 ได้เกิดสัญญาณแรกแล้ว เป็น “จังหวะเข้าซื้อ” SPDR Finance สามารถติดตามคำแนะนำแบบเต็ม ๆ ได้ที่ Opportunity Hub ของ Finnomena 👉
Show more
0